พระสมเด็จ
การสร้างพระเครื่องไว้ เพื่อสืบทอดพระพุทธ ศาสนานั้น ได้มีมาตั้งแต่สมัยทวารวดี ต่อมาท่านโบราณจารย์ผู้เชี่ยวชาญฉลาดได้ประดิษฐ์คิดสร้างพระเครื่อง ด้วยรูปแบบต่างๆนานา ตามแต่จะเห็นสมควรในยุคนั้นๆ ดังนั้น จะเห็นได้ว่ามีพระเครื่องมากมาย ที่ชาวพุทธได้สร้างสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย และในบรรดาพระเครื่องที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ่า เขายกย่องให้พระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งโดยการสร้างของพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี ) เป็นยอดแห่งพระเครื่อง และได้รับสมญานามว่าเป็น ราชาแห่งพระเครื่อง ที่ได้รับการยกย่องเช่นนั้น ก็เพราะด้วยรูปแบบของ พระสมเด็จ เป็นพระเครื่ององค์แรกซึ่งสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอย่างทรงเลขาคณิต ต่างไปจากยุคก่อนที่จะเป็นลักษณะทรงสามเหลี่ยม ทรงหัวมน และฐานก็ยังได้จำลองแบบ ลักษณะพระประธานในโบสถ์
หลวงปู่หล่ำ ได้สร้างพระสมเด็จไว้บ้างเมื่อครั้งอยู่วัดบางหญ้าแพรก มีทั้งผงใบลาน ผงน้ำมัน เนื้อผงน้ำมันเป็นการผสมผงลบกระดานเนื้อจึงออกมาสีขาว ในยุคนั้นไม่ได้มีโค๊ตหรือตราสัญลักษณ์ในการบ่งบอกว่าใครเป็นเจ้าของรู้กันแต่ในหมู่ลูกศิษย์ที่ได้รับการแจกไปและบอกลูกบอกหลานสืบต่อกันมา เมื่อมาอยู่วัดสามัคคีธรรมก็ได้สร้างพระสมเด็จไว้แจกญาติโยมบ้างในวาระต่างๆ มีทั้งเนื้อผงน้ำมัน เนื้อดินเผาจุ่มรัก เนื้อชานหมาก และเนื้อดินเผา
สมเด็จผงน้ำมัน ราวปี ๒๕๐๘
พระเชตุพล เนื้อผงคลุกรัก ปี ๐๘ (รุ่นเดียวกับพระปิดตา ปี ๐๘)
สมเด็จพิมพ์พระประธานโบสถ์ ราวปี ๒๕๑๘
สมเด็จเนื้อผง ข้างยันต์ อุ
สมเด็จเนื้อผง จุ่มแชล็ค ปี ๒๕๓๘